script data-ad-client="ca-pub-4285623555606205" async src="https://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/adsbygoogle.js"> ททท.พบปะภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยว - onlinenewscm

ททท.พบปะภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยว

หลายฝ่ายเชื่อว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวเชียงใหม่ จะเริ่มคลี่คลายขึ้น หลังวิกฤตไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ขณะที่ ททท.เชียงใหม่ เตรียมจัดทำเว็บไซต์ Chiang Mai I Meet You แคมเปญแพคเกจราคาพิเศษ กระตุ้นนักท่องเที่ยวในประเทศมาเชียงใหม่

เมื่อ 3 กรกฎาคม 63 ที่ร้านลำดีที่ขัวแดง เชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กองตลาดอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิค พร้อม ททท.สำนักงานเชียงใหม่ ได้เชิญภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ร่วมรับประทานอาหาร และพบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยวในพื้นที่เชียงใหม่ โดยมี นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิคใต้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  นางสาวภัคนันท์ วินิจฉัย ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ นายนพดล จิรภักดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายดำรง องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่กว่า 30 แห่ง เข้าร่วมงาน

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิคใต้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิคใต้ ททท. กล่าวว่า   อาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิคใต้ จะเป็นกลุ่มตลาดระยะใกล้ ที่เป็นกลุ่มแรกๆที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทาง ททท.ได้ดูในเรื่องของความพร้อม การปรับปรุงสินค้าให้ถูกจริตกับกลุ่มตลาด  โดยตามสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มท่องเที่ยวที่ติดกลุ่มมานาน รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเห็นได้ว่าโอกาสที่จะเดินทางมาในระยะเวลาอันใกล้ ก็คงจะน้อยกว่ากลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้ตนรับผิดชอบ 9 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงเอเชียใต้ อินเดีย เนปาล บังคลาเทศ อัฟกานิสถาน ซึ่งประเทศหลังนี้ตัวเลขไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนทางใต้ที่สุดก็ดูแล ออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ โดย 3 กลุ่มประเทศเหล่านี้เป็นกลุ่มตลาดสำคัญ ที่ผ่านมาทำตัวเลขได้แค่ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งเหลือเวลาไม่มากในปี 64 ซึ่งยังทำตัวเลขได้ไม่มากนัก ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวในปี 63 ถึงสิ้นปี โดยคาดประมาณตามสถานการณ์และมาตรการต่างๆ ประมาณ 8-10 ล้านคน สำหรับภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะมาได้ในเดือนตุลาคม หลังจากนั้นแล้ว ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดไม่รุนแรง  ก็จะขยายตัวและเติบโตต่อไป ทั้งนี้ในปี 62 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณวันละ 30,000 กว่าคน ต่อไปนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นการทำ Travel Bubble รัฐบาลพยายามที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณวันละ 1,000 คน และการเข้ามาในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาเซียนมาก่อน และการเข้ามาต้องดูแลโดยบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น มีกติกาที่ชัดเจนตามมาตรการป้องกันโรคของภาครัฐ เพื่อการควบคุมที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หากได้ผลแล้ว จากนั้นจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆตามมา ที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้านรอบๆตัว อาการหนักกว่าไทยมาก ปัจจุบันโควิด-19 ประเทศไทย อยู่อันดับ 96 ของโลก เพราะฉะนั้นเรื่องของการการันตีว่าสะอาด ปลอดภัย เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้

นางสาวภัคนันท์ วินิจฉัย ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ททท.จัดทำเว็บไซต์ ที่เรียกว่าแคมเปญเว็บไซต์ ชื่อ Chiang Mai I Meet You เพื่อตอบแทนความคิดถึงของนักท่องเที่ยวคนไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่คิดถึงแต่เดินทางมาไม่ได้ โดยรวบรวมผู้ประกอบการเข้ามาเสนอขายส่วนลด เป็นแพคเกจราคาพิเศษ โดยทาง ททท.จะให้ Gift Voucher หรือคูปองให้กับผู้ประกอบการที่เข้ามาอยู่ในแคมเปญนี้ โดยจะเปิดตัวในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้  โดยจะเริ่มให้ลงทะเบียนหลังจากนั้น เพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งจะมีทั้งโรงแรม ที่พัก สปา สนามกอล์ฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ทั้งนี้หลังคลายล็อคนักท่องเที่ยวไทยเดินทางกันอยู่แล้ว ซึ่งมีแนวโน้มที่ดี สังเกตจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น นอกจากบินจากกรุงเทพฯ ยังมีการบินข้ามภูมิภาคไปอู่ตะเภาหรือหาดใหญ่ แต่เดือนหน้าได้คุยกับทางแอร์เอเชียแล้วว่าเส้นทางหัวหิน ก็น่าจะเป็นโอกาสดีคนเชียงใหม่ได้ไปเที่ยวทะเลง่ายขึ้น และจะได้กลุ่ม Long Stay จากหัวหินมาเที่ยวที่เชียงใหม่ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ขยายตลาดได้  สำหรับในช่วงปลายปีนี้คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยคาดว่าจะดีขึ้น เพราะเชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว แต่เมื่อไปเทียบกับก่อนโควิด-19 ก็ไม่สามารถเทียบกันได้กับปี 62 เพราะสถานการณ์ต่างกัน.